ตั้งแต่เด็กๆ เราจะเห็นร้านค้าขายต่างๆ มีนางกวัก กันแทบทุกร้าน และยังมีการถวายน้ำแดงเป็นประจำ เคยสงสัยมั้ย ว่าทำไม และทุกร้านที่ทำการค้าขายจึงต้องมีนางกวัก กัน เรามาดูตำนาน และเคล็ดลับการบูชากันดีกว่า
นางกวักที่เราพบเห็นก็เป็นรูป ปั้นของผู้หญิงนั่งคุกเข่าในท่าเทพธิดา มือขวายกขึ้นในท่ากวักมือเรียก มือซ้ายวางไว้ข้างลำตัว หรือวางไว้บนตัก
นางกวักแต่งกายด้วยชุดไทย (โดย ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง) มีเครื่องประดับทอง อยู่ที่ศีรษะ คอ และ ต้นแขน ข้อมือ นั่งอยู่ในท่าคุกเข่า มือขวายกขึ้นในท่ากวักมือ ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจาก นางไม้ (นางไม้มีลักษณะคล้ายกันกับนางกวัก แต่มือขวาวางทาบไว้บนตัก)
นางกวักเป็นเทพีแห่งความเป็น มงคลและโชคลาภตามปรารถนาในตำนานไทยโบราณ เปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกเงินทองโชคลาภ และรักษาสถานที่ที่ประทับอยู่
ตำนานนางกวักมาจากไหน?
เมื่อกว่า 2500 ปีที่แล้วสมัยพุทธกาล มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ สุภาวดี บิดาชื่อ สุจิตพราหมณ์ และมารดาชื่อ สุมณฑา อาศัยอยู่ที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี ในประเทศอินเดีย ครอบครัวของนางประกอบอาชีพค้าขายซึ่งรายได้แค่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ
อยู่มาวันหนึ่ง สุภาวดีไปช่วยครอบครัวขายของที่ตลาด จึงได้มีโอกาสพบพระกัสสปะเถระเจ้า ซึ่งในขณะนั้นท่านกำลังแสดงธรรมเทศนา นางมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการฟังธรรมเป็นอย่างมาก พระกัสสปะเถระ (หนึ่งในพระอรหันต์) จึงประสาทพรให้แก่นางและครอบครัว
ต่อมา นางก็ได้ติดตามไปช่วยบิดาขายของเช่นเคย และได้มีโอกาสฟังธรรมจากพระสิวลีเถระเจ้า (ท่าน มีชีวิตที่วิเศษมาก ท่านอยู่ในครรภ์มารดาเป็นเวลานานถึง 7 ปี 7 เดือน และได้คลอดออกมาพร้อมด้วยบารมี โชคลาภ วาสนาที่ดี ท่านจึงประสบพบเจอแต่กับสิ่งดีและมีโชคลาภเสมอๆ) นางสุภาวดีได้ฟังธรรมอย่างตั้งอกตั้งใจจนแตกฉานในหลักธรรมคำสอน
เมื่อนางจะเดินทางกลับ พระสิวลีจึงตั้งจิตอธิษฐานและประสาทพรให้แก่นางและครอบครัว หลังจากนั้นครอบครัวของนางก็เจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายประสบความสำเร็จ เพราะได้รับพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์บิดาของนางจึงมักให้นางไปช่วย ทำ มาค้าขายด้วยเสมอๆ เพราะเชื่อว่านางเป็นสิริมงคลที่ช่วยให้การค้าขายดี หลังจากนางเสียชีวิตลง ชาวบ้านก็ได้สร้างรูปนางสุภาวดีเพื่อบูชา ขอให้ทำมาค้าขายดี ประสบความสำเร็จ และต่อมาความเชื่อนี้จึงได้แพร่เข้ามาในประเทศไทยจนเป็นที่นิยมอย่างที่เห็น ในปัจจุบัน
การบูชานางกวักมีจุดประสงค์หลากหลายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
– เพื่อให้มีโชคลาภ ประสบแต่ความโชคดี
– เพื่อดึงดูดคนให้รักใคร่เมตตาตน เอง ส่วนใหญ่ใช้กับเรื่องหน้าที่การงาน ในการช่วยให้เจ้านายหรือผู้บังคับบัญชา มีความเมตตากรุณา (รวมทั้งความรัก)
– เพื่อทางธุรกิจ เกี่ยวกับการค้าขาย มักจะบูชาพร้อมๆ กับพระพุทธรูปและเครื่องรางของขลังหลายอย่าง เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ตนโชคดีและสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
10 เคล็ดลับ บูชาแม่นางกวักให้รวยไม่เลิก
การบูชาแม่นางกวักนั้นอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ให้แม่นางกวักนั้นช่วยกวักเงิน กวักทอง กวักลูกค้า กวักการกวักงานเข้ามาให้ภายในบ้าน ดังนั้นการบูชาที่ดี ย่อมส่งผลให้แม่นางกวักที่เราหาเช่ามาบูชา มีแรงมีกำลังช่วยเหลือในการกวักเงินกวักทอง กวักลูกค้ามาให้มายิ่งขึ้น
1. ผู้บูชาควรมีจิตที่เชื่อ และศรัทธาในวัตถุมงคล ครูบาอาจารย์ ผู้ปลุกเสกให้แก่เรา
2. ก่อนออกจากบ้านควรอาราธนาแม่นางกวักไปกับเราด้วย หรือหากค้าขายอยู่ที่บ้าน ก็ควรอาราธนาติดตัวไว้ด้วยเช่นกัน
3. การจัดวางแม่นางกวัก ไม่ควรวางหันหน้าไปทางทิศตะวันตก และไม่ควรวางรวมไว้บนหิ้งพระ หรือวางสูงกว่าพระโดยเด็ดขาด
4. การนำแม่นางกวักเข้าบ้านครั้งแรกควรจุดธูป 12 หรือ 16 ดอกบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ให้เปิดทางให้แม่นางกวักของเราสามารถเข้าออกบ้านได้โดยง่าย
5. หากต้องการจุดธูปเพื่อบอกกล่าว หรืออธิษฐานขอแม่นางกวัก ให้จุดธูป 5 ดอก
6. ควรนำน้ำแดง น้ำเขียว น้ำเปล่า ขนมหรือผลไม้ และพวงมาลัยดอกไม้ ถวายแม่นางกวักทุกวันพระ
7. ของถวายนั้น ไม่จำเป็นต้องถวายทุกวันก็ได้ แต่ควรถวายอย่างน้อย 3-7 วันครั้ง และที่สำคัญน้ำเปล่าห้ามขาดหิ้งโดยเด็ดขาด
8. หมั่นทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่แม่นางกวัก เพื่อให้แม่นางกวักของเรามีฤทธิ์ สามารถเรียกลูกค้าได้เร็วๆ แรงๆ
9. การถวายอาหารห้ามถวายอาหารคาวโดยเด็ดขาด ให้ถวายเป็นของหวาน หรือผลไม้แทน
10. ไม่ควรอธิษฐาน หรือขอในสิ่งที่เกินจริง หรือเกินกำลัง และเมื่อได้ในสิ่งที่ขอแล้วก็ควรนำของที่สัญญาว่าจะให้(ในกรณีที่บอกว่าจะ ให้) มาให้ตามที่กล่าวไว้ ไม่ควรผิดสัญญาเด็ดขาด