สถาบันวิจัยในอิสราเอลค้นพบแอนติบอดีที่ทำให้เกิดการทำลาย ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ก่อโรค โควิด-19 ได้เป็นผลสำเร็จ และเตรียมทำงานร่วมกับโรงงานผลิตยาเพื่อผลิต วัคซีนโควิด-19 ออกมาเป็นจำนวนมาก
กระทรวงกลาโหมอิสราเอล ออกมาแถลงว่า สถาบันเพื่อการวิจัยทางชีวภาพแห่งอิสราเอล (IIBR) สามารถระบุแอนติบอดีที่ทำให้เกิดการต่อต้านเชื้อก่อโรค โควิด-19 ได้เป็นผลสำเร็จ โดยระบุว่า เป็น “การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวล้ำ”
นาฟตาลี เบนเน็ตต์ (Naftali Bennett) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) หลังจากเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการว่า “ผมภูมิใจในตัวทีมงานของสถาบันชีวภาพที่ได้ทำการพัฒนาครั้งสำคัญ ความคิดสร้างสรรค์และความเฉลียวฉลาดของพวกเขานำมาซึ่งความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้”
การค้นพบทางวิทยาศาสตร์นี้มีปัจจัยสำคัญ 3 ประการ หนึ่ง แอนติบอดีเป็นโคลนจากเซลล์เดียว หรือโมโนโคลนอล และมีสัดส่วนของโปรตีนที่เป็นอันตรายต่ำมาก สอง สถาบันได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของแอนติบอดีในการต่อต้านเชื้อก่อโรค โควิด-19 และสาม แอนติบอดีได้รับการทดสอบอย่างเฉพาะเจาะจงกับ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แล้ว
“จากสิ่งพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เผยแพร่ไปทั่วโลกปรากฏว่า IIBR เป็นสถาบันแรกที่บรรลุความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ตรงตามปัจจัยทั้ง 3 ประการดังกล่าวพร้อมกัน” รมว.กลาโหมกล่าวในแถลงการณ์
IIBR กำลังทำเรื่องเพื่อขอจดสิทธิบัตรแอนติบอดีดังกล่าว และทำสัญญาด้านลิขสิทธิ์สำหรับการพัฒนาแอนติบอดีออกมาเป็นวัคซีนในเชิงพาณิชย์ต่อ โดยกระบวนการทางกฎหมายทั้งหมดจะได้รับการประสานงานกับกระทรวงกลาโหม
“นี่เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ ซึ่งยังต้องผ่านการทดสอบที่ซับซ้อน และต้องผ่านกระบวนการอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับ แต่นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันเชื่อว่า การพัฒนานี้อาจทำให้กระบวนการดังกล่าวสั้นลง ซึ่งอาจครอบคลุมระยะเวลาหลายเดือน” แถลงการณ์ระบุ