สุดยอดเด็กดี ! เด็กหญิงวัย 8 ขวบ เข้าไปซื้อขนมร้านค้าปั้มน้ำมัน เก็บเงินได้แบงก์พันเป็นปึก แจ้ง ตร.ทันที
17 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษว่า นับว่าเป็นข่าวที่น่าชื่นชมยินดีที่ได้พบเด็กหญิงซื่อสัตย์เป็นเด็กดีในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้ว เหตุการณ์ที่น่าชื่นชมยินดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ต.ท.ชรัมภ์ เพ็งสุริยา สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า มีเด็กหญิงเก็บเงินได้จำนวนมาก ที่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท.ถนนศรีสะเกษ – อุบล ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบ เด็กหญิงปาริชาติ ปาณาดี อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนจักราชสามัคคี อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา ยืนถือเงินจำนวนมาก เป็นแบบธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 7 ใบ โดยมี นางกัญญารัตน์ ปาณาดี อายุ 35 ปี มารดาซึ่งรับราชการอยู่ที่ อบต.หนองขาม อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา ยืนอยู่ใกล้กัน
จากการสอบสวนเบื้องต้น เด็กหญิงปาริชาติ ปาณาดี เล่าว่า ตนพร้อมด้วยพ่อแม่กำลังจะเดินทางกลับไปบ้านที่อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา และได้มาแวะจอดรถเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำและตนกำลังจะเดินเข้าไปหาซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อ แต่ว่าเมื่อลงจากรถแล้วพบว่า ที่บริเวณพื้นถนนข้างรถที่จอดอยู่มีเงินจำนวนมากวางกองอยู่ จึงได้เก็บเงินขึ้นมาไว้และแจ้งให้แม่คือนางกัญญารัตน์ ปาณาดี ได้ทราบ ซึ่งตนนำเงินมานับดูแล้วมีจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,000 บาท ตนได้บอกกับแม่ว่า ควรที่จะนำเอาเงินทั้งหมดไปแจ้งตำรวจเพื่อให้ตามหาเจ้าของเงิน เพราะว่า เจ้าของเงินอาจจะกำลังเดือดร้อนที่เงินจำนวนมากได้หายไป ซึ่งแม่ของตนได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและมาตรวจสอบ
พ.ต.ท.ชรัมภ์ เพ็งสุริยา สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเงินทั้งหมดแล้วไม่พบหลักฐานใดๆว่าเป็นเงินของใคร ซึ่งจะต้องตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในปั้มน้ำมันเพื่อสืบหาเบาะแสเจ้าของเงิน โดยตนจะนำเด็กหญิงปาริชาติ ปาณาดี ไปพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและจะได้ติดตามหาเจ้าของเงินให้มารับเงินคืน
ตนขอชื่นชมที่เด็กหญิงปาริชาติ เป็นเด็กดีมีความซื่อสัตย์ และขอแสดงความชื่นชมกับคุณพ่อและคุณแม่ของเด็กหญิงปาริชาติ ที่อบรมสั่งสอนลูกเป็นคนดี ซึ่งจะได้เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคตต่อไป
ข้อมูลข่าวจาก www.tnews.co.th