ความเชื่อในการนับถือผีบ้านผีเรือน เป็นวัฒนธรรมส่วนหนึ่งที่ชาวนครไทยได้รับสืบทอดมาจากปู่ย่าตายาย ทั้งนี้เพราะระบบครอบครัวมีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น สิ่งใดที่บรรพบุรุษทำไว้ก็จะพากันทำตามด้วยเชื่อว่ากระทำแล้วทำให้สังคมหรือบุคคลในครอบครัวปกติสุข ชาวนครไทย เรียกผีบ้านผีเรือนว่า ผีพ่อเฒ่าเจ้าเรือน ผีพ่อเฒ่าใหญ่ ผีเหย้าผีเรือน ผีเหล่านี้เป็นผีบรรพบุรุษที่ตายไป เช่น ปู่ย่าตายาย ผู้ที่นับถือผีเรือนจะทำหิ้งขนาด ๑-๒ ฟุต วางของใช้ของบรรพบุรุษ เช่นพระห้อยคอ หนังสือ เสื้อผ้า ฯลฯ พิธีนี้ชาวนครไทยเชื่อว่าถ้าปีใดไม่ทำพิธีเซ่นไหว้ผีบ้านผีเรือน ผีจะมารบกวนคนในบ้านให้เจ็บป่วย สามี-ภรรยาจะทะเลาะกัน เด็กเล็กร้องให้ทั้งคืน ถ้าครอบครัวใดทำพิธีเซ่นไหว้จะมีแต่ความสุขความเจริญ
การจัดพิธีกรรมเซ่นไหว้ผีบ้านผีเรือน มักจะให้ผู้สูงอายุเป็นผู้ทำพิธี จึงทำให้ผู้สูงอายุมีความหมายต่อลูกหลานเป็นการให้ความสำคัญแก่ผู้ควรเคารพ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติ ความรู้สึกโดดเดี่ยวจึงไม่มี ทำให้ลูกหลานมีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษของตนการเซ่นไหว้ผีบ้านผีเรือนนี้นิยมกระทำในวันตรุษ วันสารท วันเกิดของบรรพบุรุษ วันเอาข้าวขึ้นยุ้ง วันรับขวัญ โดยผู้ทำพิธีจะเลือกเอาวันใดวันหนึ่งทำการเซ่นไหว้ บางบ้านจะเซ่นด้วยอาหารคาวหวานที่บรรพบุรุษชอบ บางบ้านเซ่นด้วยหัวหมู ไก่ หมาก พลู ขนม บุหรี่ เหล้า ดอกไม้ (นิยมใช้ดอกพุด) บางบ้านจุดตะเกียงบางบ้านจุดเทียนผู้ทำพิธีจะจุดธูปบอกกล่าวผีบ้านผีเรือนว่า
“ลูกหลานเอาของ… มาเซ่นไหว้เชิญมารับประทาน และขอให้คุ้มครอง… ให้อยู่ดีกินดีและร่ำรวย”
บางครั้งหากบ้านใดมีคนป่วยหรือมีความทุกข์ต้องการให้ผีเรือนมาช่วย ก็อาจเซ่นไหว้ และเมื่อหายทุกข์หรือหายป่วย จะต้องเซ่นไหว้หรือแก้บนตามที่บอกกล่าวผีบ้านผีเรือนไว้